กังวล คนว่างงาน จาก โควิด-19 กกจ. จัดหางานกว่า 5.8 หมื่นตำแหน่ง

กังวล คนว่างงาน จาก โควิด-19 กกจ. จัดหางานกว่า 5.8 หมื่นตำแหน่ง

อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) ได้ทำการจัดเตรียมตำแหน่งงานจำนวนกว่า 5.8 หมื่นตำแหน่ง เพื่อรองรับความเป็นไปได้ที่จะมี คนว่างงาน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 กรมจัดหางาน งาน 5 หมื่นตำแหน่ง – เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ประเทศไทยเข้าสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือว่ามีผู้ที่ขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิ และรายงานตัวกรณีว่างงานจำนวนน้อยที่สุด (คนว่างงาน) โดยไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เดือนธันวาคม มีผู้ขึ้นทะเบียนว่างงาน 82,238 คน รายงานตัว 539,474 คน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน ที่มีผู้ขึ้นทะเบียนว่างงาน 93,190 คน รายงานตัว 598,076 คน เดือนตุลาคม ขึ้นทะเบียนว่างงาน 116,160 คน รายงานตัว 643,148 คน และเดือนกันยายนขึ้นทะเบียน 121,023 คน รายงานตัว 680,825 คน

นายสุชาติกล่าวว่า แต่อย่างไรก็ดี 

กรมการจัดหางานคาดการณ์ว่าอาจจะมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ จึงได้รวบรวมตำแหน่งงานว่างจากนายจ้าง/สถานประกอบการที่ยังมีความต้องการจ้างงาน จำนวน 58,151 อัตรา ซึ่งมีตำแหน่งงานรองรับทุกระดับการศึกษา และอัตราค่าจ้างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศ 10 อันดับแรก ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่

1.แรงงานในด้านการผลิตต่างๆ แรงงานทั่วไป

2.แรงงานด้านการประกอบอื่นๆ

3.แรงงานด้านการผลิต

4.พนักงานขาย และผู้นำเสนอสินค้าอื่นๆ

5.ตัวแทนนายหน้าขายบริการธุรกิจอื่นๆ

6.พนักงานจัดส่งสินค้าอื่นๆ 

7.เจ้าหน้าที่เก็บเงิน, แคชเชียร์ 

8.พนักงานบริการอื่นๆ 

9.พนักงานขายสินค้า (ประจำร้าน), พนักงานขายของหน้าร้าน

10.ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์

สำหรับผู้ว่างงานที่ประสงค์มีงานทำ สามารถเลือกสมัครงานผ่านช่องทางการให้บริการจัดหางานรูปแบบออนไลน์ด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ smartjob.doe.go.th หรือ ไทยมีงานทำ.com เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปติดต่อที่สำนักงาน ลดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แต่ในกรณีที่ไม่สามารถใช้บริการแบบออนไลน์ได้ สามารถติดต่อขอรับบริการ ณ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด ทั้งนี้ขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่แนะนำอย่างเคร่งครัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

EXIM Bank ออก มาตรการช่วยเหลือ ลูกค้าใน พื้นที่เสี่ยง โควิด-19

EXIM BANK ออก มาตรการช่วยเหลือ “พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย” ลูกค้าใน พื้นที่เสี่ยง สีแดง สีส้ม และสีเหลือง จากการแพร่รระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ระลอกใหม่ ใน พื้นที่เสี่ยง หลาย ๆ จุด ซึ่งมีผลต่อภาคการส่งออกของไทย ทาง EXIM BANK จึงได้ออก มาตรการช่วยเหลือ ภายใต้ชื่อ “มาตรการพักชำระหนี้ในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง”

เพื่อเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ สนับสนุนลูกค้า ทั้งที่เป็นผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออกและผู้ส่งออก ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง (Red zone) สีส้ม (Orange zone) และสีเหลือง (Yellow zone) ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้

พักชำระหนี้เงินต้น ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน

พิเศษ! พักชำระดอกเบี้ย เป็นระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน สำหรับผู้ประกอบการอาหารแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง และผักผลไม้

ภายใต้ “มาตรการพักชำระหนี้ในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง” ลูกค้า EXIM BANK สามารถขอพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร www.exim.go.th หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ดูแลลูกค้า ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มีนาคม 2564 โดยธนาคารจะติดต่อกลับภายใน 3 วันทำการ

EXIM BANK ได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2563 EXIM BANK ได้ช่วยเหลือลูกค้าโดยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 6 เดือนไปแล้วกว่า 1,400 ราย เป็นจำนวนเงิน 36,853 ล้านบาท และหลังจากนั้น มีผู้ประกอบการติดต่อขอรับมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นจำนวนเงิน 4,050 ล้านบาท

ในครั้งนี้ EXIM BANK พร้อมเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า