ที่ประชุมสภาร่วมลงมติ ลงมติไม่รับ ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน มุ่งเน้นรื้อระบอบประยุทธ์ ผลคะแนนไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา ถูกปัดตกไปตามคาด 16 พ.ย. 64 ที่ประชุมรัฐสภา ได้ร่วม ลงมติญัตติ “ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช ….” (ยกเลิกมาตรา 65 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 7 มาตรา 159 วรรคแรก เพิ่มมาตรา 193/1 มาตรา 193/2 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 11 หมวด 12 มาตรา 256 หมวด 16 ยกเลิกมาตรา 269 มาตรา 270 มาตรา 271 มาตรา 272 และมาตรา 279) โดยวิธีการขานชื่อเป็นรายบุคคล ผลการลงมติมีดังนี้
ส่งผลให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวถูกปัดตก เนื่องจากคะแนนเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง หรือ 362 เสียงขึ้นไป จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 723 คน
โดย แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับดังกล่าวขับเคลื่อนโดยกลุ่ม Resolution ที่เรียกขานว่าเป็นการ “รื้อระบอบประยุทธ์” และมีประชาชนเข้าร่วมลงชื่อจำนวน 150,921 คน (ผ่านการตรวจรายชื่อ 135,247 รายชื่อ) ถือเป็นภาคสามของการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 และเป็นครั้งที่สองที่ร่างจากประชาชนได้เข้าสู่สภา เนื้อหาสำคัญคือเสนอให้ยกเลิกวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีเศษที่ผ่านมาแม้จะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาแล้วรวมทั้งสิ้น 20 ฉบับ แต่ก็มีร่างเพียงฉบับเดียวที่ผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาได้สำเร็จ คือ ข้อเสนอที่ให้แก้ไขระบบเลือกตั้ง ส.ส.
ถามว่า การเสอนแก้ไขรัฐธนนมนูญฉบับประชาชนนี้ สมมติว่า หากไม่โดนปัดตกไปเสียก่อนนั้น ข้อดีของแต่ละหลักการมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เริ่มด้วย ข้อดีของการใช้ระบบสภาเดี่ยวที่ไม่มี ส.ว. ประเด็นแรก คือ ลดงบประมาณลง โดยข้อมูลจาก พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ‘ไอติม’ อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในงานเสวนา “ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระบุ ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายของการมี ส.ว. ประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี รวมค่าตอบแทน ค่าเดินทาง ยังไม่ได้รวมอาคารที่ต้องสร้างขึ้นมาและค่าใช้จ่ายยิบย่อย ประเด็นที่สอง คือ ระยะเวลาในการออกกฎหมายแต่ละฉบับจะสั้นลง การออกกฎหมายเพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของโลกจะคล่องตัวมากขึ้น
ส่วนกรณี การปฏิรูปองค์กรอิสระจะทำให้องค์กรอิสระมีบทบาทอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบรัฐบาลจากทุกฝ่ายมากขึ้น ขณะที่ประเด็นการยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะทำให้ข้าราชการมีเวลาและความยืดหยุ่นมากขึ้นในการรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า
นอกจากนี้ หัวใจสำคัญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ การสร้างระบบการเมืองที่ “ไว้วางใจประชาชน”
– ระบบที่ไว้วางใจประชาชน ให้มีสิทธิเลือกผู้นำของตนเอง โดยไม่ต้องมี ส.ว. 250 คนมาร่วมเลือกด้วย
– ระบบที่ไว้วางใจประชาชน ให้เลือกนโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองมานำเสนอได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องกังวลว่าเลือกไปแล้วก็ทำให้เป็นจริงไม่ได้ เพราะมียุทธศาสตร์ชาติที่ล็อกไว้แล้วล่วงหน้า 20 ปี
– ระบบที่ไว้วางใจประชาชน ให้เขาแก้ทุกวิกฤตทางการเมืองกันเองผ่านกลไกรัฐสภา โดยไม่ต้องให้ทหารเข้ามายึดอำนาจและอ้างว่าเพื่อจะมาแก้ปัญหาให้พวกเขา
‘สิระ’ หนุน กลุ่มเจริญ Porn แก้ กฎหมายสื่อลามก แนะปรับให้ทันสมัย
สิระ ร่วมหนุน กลุ่มเจริญ Porn แก้ กฎหมายสื่อลามก ชี้เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยและต้องปรับให้ทันเหตุการณ์ แซวอย่าเปลี่ยนนามสกุลเป็นเจนราคะ นาย สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่ม เจริญ Porn ที่นำโดย นายอรรถพล ไข่ทอง หรือ เบลล์ ขอบสนาม พร้อมด้วย นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท รวมทั้ง ไข่เน่า ดาวดัง onlyfans ที่ได้ยื่นหนังสือต่อ นาย ชวน หลีกภัย กฎหมายมาตรา 287 ว่าด้วยเรื่องสื่อลามกอนาจาร
ว่า ตนอยากให้สภาฯ ไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาเรื่องนี้ ขอให้ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เข้าไปทำเรื่องนี้แล้วแก้กฎหมาย เพราะในปัจจุบันกมธ.กำลังจะแก้กฎหมายเกี่ยวกับเซ็กซ์ทอยให้ถูกกฎหมาย
ซึ่งตนมองว่าเป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่ทันต่อเหตุการณ์ แต่ถ้าแก้ได้มันก็จะเกิดประโยชน์ เช่น ผู้แสดง ตนคิดว่าไม่มีใครอยากเป็นผู้แสดง อาจมีความจำเป็นหรืออาจทำเชิงธุรกิจ ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคนตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องป้องกันในเรื่องของเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึง และการเป็นเหยี่อในธุรกิจด้านนี้ ซึ่งเราจะศึกษาให้ครอบคลุมเกี่ยวกับผลกระทบต่างๆ
“ขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีตำรวจไซเบอร์รับผิดชอบเรื่องนี้ ท่านได้บังคับใช้กฎหมายบ้างหรือไม่ ได้ปิดการเข้าถึงของเยาวชนบ้างหรือไม่ เช่น โทรศัพท์มือถือของแต่ละคนสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้อย่างง่ายดาย และผู้บังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้ไปบังคับใช้กฎหมายเลย แต่หากเราศึกษาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่วงการนี้ก็จะสามารถที่จะทำได้ ถามว่าเป็นอันตรายกับสังคมหรือไม่ หากเทียบกับเรื่องอาวุธปืนที่อันตรายต่อชีวิต มีโทษ แต่ทำไมสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ ดังนั้น มองแต่เรื่องอันตรายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองที่โอกาส และกฎหมายว่าเท่าทันกับยุคสมัยหรือไม่”
ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ยังได้รายงานว่า นายสิระ ได้พูดติดตลกด้วยว่า “ผมนามสกุล เจนจาคะ ขอเสนอตัวมาแก้กฎหมายเรื่องสื่อลามกก็อย่าเปลี่ยนนามสกุลผมเป็น เจนราคะ นะ ขอเป็น เจนจาคะ เหมือนเดิมนะ”
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง